Email
hitmeup@fortsecureglobal.com
Call
Call Us: 095-902-5726

Privacy Notice for Employee and Applicant

ประกาศความเป็นส่วนตัวสำหรับสำหรับพนักงานและผู้สมัครงาน (Privacy Notice for Employee and Applicant)

บริษัท ฟอร์ทซีเคียว โกลบัลล์ จำกัด (“บริษัท”) ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและมุ่งมั่นที่จะคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทจึงได้จัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้น เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิตามกฎหมายในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล โดยข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทอาจเก็บรวบรวม ได้แก่ ข้อมูลของผู้สมัครงาน ซึ่งหมายถึงผู้สมัครงานเพื่อเป็นพนักงานประจำ พนักงานอัตราจ้าง นักศึกษาฝึกงาน พนักงานที่อยู่ภายใต้การจ้างงานของบริษัทจัดหางาน (Outsource) หรือพนักงานอิสระ (Freelance) ที่ทำงานให้แก่บริษัท ไม่ว่าการสมัครงานจะดำเนินการโดยตนเอง หรือผ่านบริษัทจัดหางานหรือบุคคลอื่น และรวมถึงอดีตผู้สมัครงาน, ข้อมูลของพนักงาน ซึ่งหมายถึงผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้าทำสัญญาเพื่อทำงานให้แก่บริษัทในฐานะพนักงานประจำ กรรมการ ผู้บริหาร พนักงานอัตราจ้าง พนักงาน Outsource พนักงาน Freelance นักศึกษาฝึกงาน รวมถึงอดีตพนักงาน และข้อมูลของบุคคลที่สาม ซึ่งหมายถึงบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับผู้สมัครงานหรือพนักงาน เช่น บุคคลในครอบครัว บุคคลติดต่อฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง หรือบุคคลผู้ค้ำประกัน เป็นต้น ซึ่งในประกาศฉบับนี้ จะเรียกรวมกันว่า “ท่าน” หรือ “เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

คำนิยาม

คำนิยาม ความหมาย
บริษัท บริษัท ฟอร์ทซีเคียว โกลบัลล์ จำกัด
บุคคล บุคคลธรรมดาที่ยังไม่ถึงแก่กรรม
ประมวลผล กระบวนการดำเนินการใด ๆ หรือชุดของการดำเนินการที่กระทำกับข้อมูลส่วนบุคคล จะโดยวิธีการแบบอัตโนมัติหรือไม่ก็ตาม เช่น การเก็บรวบรวม การบันทึก การจัดการอย่างเป็นระบบ การจัดโครงสร้าง การประยุกต์ การแก้ไข การกู้คืน การให้คำปรึกษา การใช้ การเปิดเผยด้วยการส่ง การเปิดเผยด้วยการเผยแพร่หรือเข้าถึงได้โดยวิธีอื่นใด การรวมข้อมูล การจำกัด การลบหรือทำลาย เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ เลขประจำตัวประชาชน เลขหนังสือเดินทาง เลขประจำตัวผู้เสียภาษี เลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเครดิต ที่อยู่อีเมล IP Address, Cookie ID, Log File เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลที่ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นระบุไปถึง แต่ไม่ใช่กรณีที่บุคคลมีความเป็นเจ้าของข้อมูล (Ownership) หรือเป็นผู้สร้างหรือเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นเอง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหมายถึงบุคคลธรรมดาเท่านั้นและไม่รวมถึง “นิติบุคคล” (Juridical Person) ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย เช่น บริษัท สมาคม มูลนิธิ เป็นต้น
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่ตัดสินใจเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการดังกล่าวไม่เป็นผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งบริษัทแต่งตั้งให้ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
คำจำกัดความอื่น ๆ ในกรณีที่ประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ไม่ได้นิยามไว้ คำนิยามให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผล

บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่าง ๆ โดยตรงจากท่านหรือโดยอ้อมจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ โดยอาจแบ่งประเภทข้อมูลส่วนบุคคลได้ ดังนี้

ประเภทข้อมูล ตัวอย่างข้อมูลที่บริษัทประมวลผล
ข้อมูลส่วนตัว เช่น คำนำหน้า ชื่อ-นามสกุล อายุ อาชีพ วันเดือนปีเกิด ชื่อบริษัท ตำแหน่ง เงินเดือน ประวัติการทำงาน ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน เพศ สัญชาติ สถานภาพการสมรส ประวัติการศึกษา วุฒิการศึกษา รูปถ่าย ลายมือชื่อ รายละเอียดข้อร้องเรียน เป็นต้น
ข้อมูลติดต่อ เช่น ที่อยู่ทางทะเบียนบ้าน ที่อยู่ที่พักอาศัย ที่อยู่ทางธุรกิจ ที่อยู่ทางไปรษณีย์ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์ทางธุรกิจ หมายเลขโทรสาร อีเมล ไลน์ไอดี หรือข้อมูลติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เป็นต้น
ข้อมูลการศึกษาและการทำงาน เช่น ประวัติการศึกษา ประวัติการทำงาน สถานที่ทำงาน ระยะเวลาการทำงาน ตำแหน่งงาน เงินเดือน เหตุผลที่ลาออก เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ออกโดยทางราชการ เช่น เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขที่หนังสือเดินทาง เลขที่ประจำตัวผู้เสียภาษีอากร หนังสือรับรองบริษัท (ที่ระบุรายชื่อกรรมการบริษัท) หรือข้อมูลอื่นที่คล้ายคลึงกัน เป็นต้น
ข้อมูลทางการเงิน เช่น เลขบัญชีธนาคาร ประเภทบัญชีธนาคาร ข้อมูลพร้อมเพย์ รายละเอียดการจ่ายเงิน เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับ เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ข้อมูลความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพ หรือข้อมูลอื่นใดซึ่งกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลประกาศกำหนด
ข้อมูลบุคคลที่สาม เช่น ชื่อ นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ความสัมพันธ์กับเจ้าของข้อมูล ผู้ติดต่อฉุกเฉิน คู่สมรส บุตร เป็นต้น
ข้อมูลการเข้าใช้งาน เช่น ข้อมูลคุกกี้ (Cookie) เลขที่อยู่ไอพีหรืออินเทอร์เน็ตโพรโทคอล (IP Address) ล็อก (Log) วันที่และเวลาของการเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ หน้าเพจที่เข้าเยี่ยมชม เป็นต้น

ในกรณีที่บริษัทได้รับสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือเอกสารอื่นใดของท่านเพื่อการพิสูจน์ตัวตนก่อนการมีนิติสัมพันธ์หรือทำธุรกรรมทางกฎหมายกับบริษัท ซึ่งอาจมีข้อมูลศาสนา หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Data) บริษัทไม่มีนโยบายจัดเก็บข้อมูลดังกล่าว เว้นแต่ได้รับความยินยอมหรือมีฐานทางกฎหมายในการประมวลผล และหากท่านไม่ได้ปกปิดหรือให้ความยินยอมไว้ บริษัทจะดำเนินการคุ้มครองข้อมูลตามวิธีการที่เหมาะสม เช่น การถมดำหรือขีดทับ ทั้งนี้ หากบริษัทได้รับข้อมูลของบุคคลที่สามจากท่าน เช่น บุคคลติดต่อฉุกเฉิน ท่านควรแจ้งประกาศความเป็นส่วนตัวนี้ให้บุคคลดังกล่าวทราบและขอความยินยอมหากจำเป็น เว้นแต่มีข้อยกเว้นตามกฎหมาย และสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถ บริษัทจะไม่ดำเนินการเก็บรวบรวม เว้นแต่ได้รับความยินยอมจากผู้มีอำนาจตามกฎหมายหรือมีฐานทางกฎหมายรองรับ ทั้งนี้ หากพบว่ามีการเก็บข้อมูลดังกล่าวโดยไม่มีฐานทางกฎหมาย บริษัทจะดำเนินการลบทันทีที่ทราบ.

แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทดำเนินการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ผ่านกระบวนการ ดังนี้

ช่องทางที่ได้รับข้อมูลมา วิธีการที่ได้รับข้อมูลบ
ข้อมูลที่ท่านให้กับบริษัทโดยตรง เช่น จากกระบวนการสรรหาและรับสมัครงาน การกรอกข้อมูลในใบสมัครงาน เอกสารแนบประกอบการพิจารณาและคัดเลือกเข้าทำงาน การทำแบบสอบถาม การสัมภาษณ์ รวมถึงข้อมูลและการปรับปรุงข้อมูลของท่านจากการจ้างงานหรือกระบวนการต่าง ๆ ในช่วงเวลาที่ท่านเป็นพนักงานหรือบุคลากรของบริษัท เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งอื่น เช่น ตัวแทนจัดหางาน เว็บไซต์สมัครงาน ข้อมูลจากบุคคลอ้างอิงผู้ให้การรับรอง บริษัทในเครือ กรมการปกครอง หน่วยงานของรัฐ สถานพยาบาล เป็นต้น

วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

วัตถุประสงค์ที่บริษัทดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทอาจอาศัยหรืออ้างฐานทางกฎหมาย ดังต่อไปนี้

ฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล วัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
ฐานความยินยอม เพื่อประมวลผลข้อมูลในบางกรณี เช่น การเผยแพร่ภาพถ่ายหรือวิดีโอจากการเข้าร่วมกิจกรรมของบริษัท การสำรวจความคิดเห็น หรือการประเมินความรู้ความเข้าใจจากการอบรมหรือสัมมนา
ฐานสัญญา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนก่อนเข้าทำสัญญาและตลอดระยะเวลาของการจ้างงาน เช่น การรับสมัครและคัดเลือกผู้สมัครงาน การสัมภาษณ์และประเมินคุณสมบัติ การจัดทำสัญญาจ้าง การลงทะเบียนพนักงาน การออกบัตรประจำตัว การจัดการข้อมูลวันลาและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ การจัดทำเงินเดือนและผลตอบแทน รวมถึงการมอบหมายทรัพย์สินของบริษัทให้แก่พนักงาน
ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การจัดทำทะเบียนลูกจ้าง การยื่นภาษี การส่งเงินสมทบประกันสังคม การหักหนี้ กยศ. การเก็บข้อมูลลายนิ้วมือเพื่อบันทึกเวลา การตอบสนองสิทธิของเจ้าของข้อมูล การจัดทำเอกสารตามระเบียบภายใน และการดำเนินการตามคำสั่งของหน่วยงานรัฐหรือศาล
ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อประโยชน์โดยชอบธรรม เช่น การตรวจสอบคุณสมบัติและประวัติของผู้สมัครงาน การจัดทำรายงานเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจจ้างงาน การตรวจสอบการใช้งานระบบสารสนเทศ การวิเคราะห์ข้อมูลบุคลากร การตรวจสอบการทำงาน การควบคุมการเข้าถึงระบบและทรัพย์สินของบริษัท การจัดกิจกรรมภายใน การบริหารจัดการข้อมูลของอดีตพนักงาน รวมถึงการสอบสวนและกำกับดูแลด้านวินัยตามระเบียบองค์กร
ฐานเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือภารกิจของรัฐ เพื่อประโยชน์สาธารณะด้านสาธารณสุข เช่น การป้องกันโรคติดต่อหรือโรคระบาดตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงการจัดเก็บข้อมูลสุขภาพที่จำเป็นเพื่อความปลอดภัยของพนักงาน

ทั้งนี้ การที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลกับบริษัทอาจส่งผลกระทบต่อท่าน กล่าวคือ บริษัทไม่อาจดำเนินการตามที่ท่านร้องขอหรือตามสัญญาได้ โดยบริษัทอาจไม่สามารถเสนอบริการของบริษัทบางส่วนหรือทั้งหมดให้แก่ท่านได้ และท่านอาจไม่ได้รับความสะดวก หรือไม่ได้รับการปฏิบัติตามสัญญา และอาจได้รับความเสียหาย/เสียโอกาส ในบางกรณี การที่ท่านไม่ให้ข้อมูลดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติตามกฎหมายใด ๆ ที่บริษัทหรือท่านมีหน้าที่ ต้องปฏิบัติตามและอาจมีบทกำหนดโทษที่เกี่ยวข้อง

การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

บริษัทอาจจัดเก็บ ใช้ หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศหรือให้บุคคลหรือนิติบุคคลอื่นประมวลผลข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบคอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์ หรือระบบคลาวด์ ทั้งนี้เพื่อปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านเป็นคู่สัญญา หรือตามคำขอของท่านก่อนเข้าทำสัญญา หรือเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ รวมถึงกรณีที่บริษัทได้รับความยินยอมจากท่าน โดยบริษัทจะกำหนดให้ผู้ให้บริการหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม และดำเนินการตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลของท่านจะได้รับการคุ้มครองอย่างเหมาะสม และไม่ถูกเข้าถึง ใช้ หรือเปิดเผยโดยมิชอบ

การเก็บรักษาและระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์ในการประมวลผล โดยคำนึงถึงข้อกำหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง มาตรฐานทางธุรกิจ และมาตรฐานสากล เช่น ISO ซึ่งอาจรวมถึงการจัดเก็บไว้เป็นระยะเวลา 10 ปีตามอายุความตามกฎหมาย ทั้งนี้ แม้ความสัมพันธ์ระหว่างท่านกับบริษัทจะสิ้นสุดลง บริษัทอาจยังคงประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือทำให้ข้อมูลไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ (เช่น การทำข้อมูลนิรนาม) โดยบริษัทจะดำเนินการตรวจสอบและลบ ทำลาย หรือจำกัดข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม เมื่อข้อมูลหมดความจำเป็นตามวัตถุประสงค์ หรือเมื่อท่านร้องขอให้ลบข้อมูลตามสิทธิที่ท่านมีภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สิทธิของเจ้าของข้อมูล

ภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิตามกฎหมายในการควบคุมและปกป้องข้อมูลของตนเอง บริษัทเคารพและให้ความสำคัญต่อสิทธิเหล่านี้ โดยบริษัทได้จัดให้มีกระบวนการและมาตรการที่เหมาะสมในการรองรับคำขอของท่าน เพื่อให้สามารถใช้สิทธิได้อย่างสะดวก ถูกต้อง และเป็นธรรม ภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายกำหนด

สิทธิของเจ้าของข้อมูล รายละเอียด
สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวให้กับท่าน รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในความครอบครองของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทอาจปฏิเสธคำขอของท่าน หากการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะส่งผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือบริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาลที่ห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากบริษัทในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือประมวลผลได้โดยอัตโนมัติ และมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลรายอื่นได้โดยตรง หากสามารถดำเนินการได้ทางเทคนิค ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวต้องเป็นข้อมูลที่ท่านได้ให้ความยินยอมในการประมวลผลไว้กับบริษัท หรือเป็นข้อมูลที่จำเป็นต่อการให้บริการตามสัญญาระหว่างบริษัทกับท่าน หรือเป็นข้อมูลที่บริษัทจำเป็นต้องประมวลผลเพื่อตอบสนองคำขอของท่านก่อนเริ่มใช้บริการ หรือเป็นข้อมูลที่สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้
สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูล ท่านมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ทุกเมื่อ หากการประมวลผลนั้นอ้างอิงจากฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยหากบริษัทไม่สามารถแสดงเหตุผลที่มีน้ำหนักมากกว่าสิทธิของท่านได้ บริษัทจะยุติการประมวลผลข้อมูลดังกล่าว นอกจากนี้ ท่านยังมีสิทธิคัดค้านการประมวลผลข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการตลาด หรือเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติได้เช่นกัน
สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้บริษัททำให้ข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถระบุตัวท่านได้ หากข้อมูลนั้นถูกประมวลผลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือบริษัทไม่มีความจำเป็นต้องเก็บรักษาต่อไปตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ หรือเมื่อท่านได้ถอนความยินยอมหรือคัดค้านการประมวลผลข้อมูลแล้ว ทั้งนี้ ยกเว้นในกรณีที่บริษัทมีหน้าที่ต้องเก็บข้อมูลตามกฎหมาย หรือจำเป็นต้องใช้ข้อมูลดังกล่าวในการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลชั่วคราวในกรณีที่บริษัทอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือขอคัดค้านของท่าน หรือกรณีอื่นใดที่บริษัทหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องแต่ท่านขอให้บริษัทระงับการใช้แทน
สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมที่เคยให้ไว้กับบริษัทในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ตลอดเวลา ตราบใดที่ข้อมูลยังอยู่กับบริษัท เว้นแต่กฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์กับท่านจะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น อย่างไรก็ตาม การถอนความยินยอมอาจส่งผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ท่านเคยได้รับ หรือทำให้ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลหรือบริการบางอย่างของบริษัทได้ ดังนั้นควรศึกษาผลกระทบก่อนตัดสินใจถอนความยินยอม
สิทธิร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากท่านเชื่อว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท หรือประสงค์จะใช้สิทธิตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านสามารถติดต่อบริษัทตามรายละเอียดในช่องทางการติดต่อของประกาศฉบับนี้ ทั้งนี้ หากท่านเห็นว่าบริษัทได้กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับแต่งตั้งโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เมื่อบริษัทได้รับคำร้องขอใช้สิทธิแล้ว บริษัทจะพิจารณาและดำเนินการภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด และขอสงวนสิทธิในการปฏิเสธคำขอหากมีเหตุผลตามที่กฎหมายกำหนด เช่น เพื่อปฏิบัติตามหน้าที่ตามกฎหมาย หรือเพื่อไม่ให้สิทธิของผู้อื่นถูกละเมิด โดยบริษัทจะแจ้งเหตุผลของการปฏิเสธให้ท่านทราบในทุกกรณี

มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยกำหนดมาตรการด้านเทคนิค (Technical Measures), มาตรการด้านการบริหารจัดการ (Organizational Measures) และมาตรการด้านกายภาพ (Physical Measures) เพื่อป้องกันการเข้าถึง การใช้ การเปิดเผย การเปลี่ยนแปลง หรือการทำลายข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการลดความเสี่ยงจากการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล บุคลากรของบริษัท รวมถึงผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษา และผู้ประมวลผลข้อมูลภายนอก ต้องปฏิบัติตามนโยบาย ระเบียบ และข้อตกลงด้านความลับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทกำหนด โดยบริษัทมีการตรวจสอบและปรับปรุงมาตรการเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยง และรับประกันว่าการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปอย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์หรือไม่ก็ตาม

การเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว

บริษัทจะดำเนินการการพิจารณาทบทวนประกาศความเป็นส่วนตัวอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติ กฎหมาย รวมถึงข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง หากมีการเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัว บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงพร้อมกับประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับปรับปรุง ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทและช่องทางอื่นที่เหมาะสม ทั้งนี้ บริษัทขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เป็นระยะ ๆ

ช่องทางการติดต่อ

หากท่านมีข้อสงสัย หรือต้องการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการประมวลผล การใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อได้ตามรายละเอียดที่ปรากฏดังต่อไปนี้

เจ้าหน้าที่รับผิดชอบการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล data.privacy@fortsecureglobal.com
สถานที่ติดต่อ FORTSECURE GLOBAL CO.,LTD
สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 199/219 The Connect 9, Klongkum, Buengkum

ประกาศใช้ ณ วันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2568